ในแต่ละชั่วโมงมีกิจการเกิดใหม่จำนวนมาก แต่ในทางสถิติพบว่ามีแนวคิดทางธุรกิจเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่จะอยู่รอดและสามารถดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง เมื่อเราพูดถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เรามักมุ่งเป้าไปที่วิธีบริหารจัดการ การพัฒนาสินค้าหรือบริการ และการศึกษาตลาด แต่ในโลกที่การแข่งขันมีความรุนแรงและเรียกร้องให้ธุรกิจต้องทำประโยชน์ที่มากกว่าเงินตรา ปัจจัยที่จะส่งผลต่อความยั่งยืนของกิจการจึงหนีไม่พ้นการสร้างผลกระทบทางสังคม
วันนี้ SolidSprout จะพาไปรู้จักกับการสร้างผลกระทบทางสังคม ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ และจะสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนให้แก่ธุรกิจได้อย่างไร
01
ดึงดูดนักลงทุน
นักลงทุนที่กล้าเสี่ยงมักยินดีจ่ายหนักให้แก่กิจการที่มีแนวทางการใช้จ่ายเงินที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่เพียงแผนการใช้จ่ายและการควบคุมงบประมาณได้อย่างรัดกุมเท่านั้น แต่การวางแผนการใช้จ่ายที่ดียังครอบคลุมถึงการระบุถึงแผนการดูแลผลกระทบทางสังคมด้วย นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมลงทุนกับกิจการที่มีการดำเนินงานทางสังคมที่ดีเพราะการดำเนินงานทางสังคมเป็นเครื่องช่วยยืนยันถึงความมั่นคงของบริษัท และยังช่วยประกันความเสี่ยงอื่นๆ ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
02
ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้ธุรกิจ
การเป็นธุรกิจที่ให้ความใส่ใจต่อผลกระทบทางสังคมจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ด้านบวกและทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ เพราะความเชื่อมั่นของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก การทำให้เกิดการรับรู้ด้านบวกเกี่ยวกับธุรกิจจึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยสร้างความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) และส่งผลดีต่อผลประกอบการในอนาคต
03
ลดความเสี่ยงในระยะยาว
ผู้คนมีความต้องการที่แตกต่างกันและตั้งมาตรฐานด้านความพึงพอใจไว้แตกต่างกัน สินค้าและบริการชนิดหนึ่งๆ จึงอาจสร้างความไม่พึงพอใจแก่ลูกค้าได้เสมอ และความไม่พึงพอใจนั้นอาจขยายวงกว้างต่อเนื่องได้ สิ่งนี้เรียกว่าเป็น “การสะท้อนกลับด้านลบทางศีลธรรม” หรือ “Ethical Blowback” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางที่ทำให้ทุกคนสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมาและสามารถส่งต่อหรือแชร์ความคิดเห็นถึงกันได้อย่างรวดเร็ว การเตรียมการป้องกันและการคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจัดการดูแลไว้ตั้งแต่แรก
04
เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เจ้าของธุรกิจที่ดีมักมีสายตากว้างไกลที่มองเห็นและสามารถเตรียมพร้อมให้กิจการสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตได้ เหตุผลเดียวที่องค์กรจำนวนมากดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมก็เพราะการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้จะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมได้ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งให้เกิดผลตอบแทนที่ดีกลับมาสู่กิจการในอนาคต
05
ลูกค้าและสังคมไว้วางใจ
ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และการให้ความสำคัญในการรับผิดชอบต่อสังคมจะส่งผลต่อการตัดสินใจใช้ซื้อสินค้าหรือบริการได้ ผู้คนจำนวนมากพร้อมจะใช้จ่ายมากขึ้นหากทราบว่าสินค้าหรือบริการนั้นจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้เกิดผลดีด้านอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน บริษัทที่ให้ความใส่ใจกับสังคมและชุมชนมักได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากชุมชนรอบข้างและมักมีผลประกอบการที่ดีตามมาเช่นกัน นอกจากนี้ สื่อต่างๆ จำนวนมากยังยินดีทำข่าวให้ โดยบริษัทอาจไม่ต้องออกแรงเพิ่มเลย
06
ดึงดูดพนักงานที่มีคุณภาพ
คนเก่งจำนวนมากยินดีทำงานให้องค์กรที่สามารถทำให้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับใหญ่ได้ หากบริษัทคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมจะยิ่งดึงดูดและเสริมพลังให้แก่พนักงานเหล่านี้ ทรัพยากรบุคคลจึงมีคุณค่ามากขึ้น สามารถผลักดันให้เกิดผลบวกได้มากขึ้น และหากองค์กรสามารถทำให้พวกเขาได้ใช้แรงบันดาลใจและความสามารถในทิศทางที่สอดคล้องกันได้ ความสำเร็จในระดับใหญ่ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
07
ลดค่าใช้จ่าย
ข้อนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกแปลกใจ เพราะแผนก CSR (Corporate Social Responsibility) ในหลายบริษัทกำลังใช้เงินจำนวนมากโดยไม่ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่บริษัทเลย แต่การผนวกกิจกรรมทั่วไปของบริษัทให้สอดคล้องกับกิจกรรมที่คำนึงถึงผลกระทบทางสังคมนั้นสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องแยกแผนกออกไปอย่างนั้นเลย บริษัทอาจเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการลดใช้พลังงาน ลดการสร้างขยะ หรือแม้แต่การสื่อสารโดยตรงไปยังผู้บริโภคด้วยการลดการใช้หีบห่อที่ไม่จำเป็น
08
พัฒนาคุณภาพพนักงาน
พนักงานมักมีความภาคภูมิใจหากได้ทำงานให้แก่องค์กรที่มีภาพลักษณ์ที่ดี พนักงานที่มีความสุขย่อมทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดี ส่งผลดีต่อการประกอบการ วัฒนธรรมขององค์กรในการคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมยังช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกเกื้อกูลกันระหว่างพนักงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดความขัดแย้งและทำให้การดำเนินงานต่างๆ มีความราบรื่น
09
ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
เพราะพนักงานรับรู้ว่าองค์กรของเขากำลังทำสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่สังคมที่เขาใช้ชีวิตอยู่ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่พนักงานจะรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและพร้อมจะแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันพัฒนาแนวทางการประกอบกิจการ พวกเขาทราบดีว่าผลประกอบการที่ดีจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนที่พวกเขาอยู่ และเนื่องจากความคิดสร้างสรรค์เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญของผู้นำในทุกระดับ การตัดสินใจดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางในการสร้างผลกระทบทางสังคมจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในองค์กรได้
SolidSprout
#ออกแบบเพื่อสร้างสรรค์สังคม
Comments